บทความ

9 อาการต้นไม้ปลูกในบ้านที่ต้องระวัง

รูปภาพ
 เชื่อว่าคนปลูกต้นไม้หลายคนน่าจะเจอปัญหาคล้าย ๆ กันว่า ทำไมต้นไม้ที่บ้านของเราไม่สวยเหมือนตอนอยู่ที่ร้าน หรือเลี้ยงอยู่ดี ๆ ต้นไม้ก็เหี่ยวแบบหาสาเหตุไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่รดน้ำทุกวัน บางครั้งก็มีใบไหม้หรือจุดด่าง ๆ กระจายเต็มต้น วันนี้กระปุกดอทคอมขออาสารวมปัญหาที่คนปลูกต้นไม้ในบ้านควรระวังมาฝาก มาดูกันว่ามีโรคแบบไหนบ้างที่ควรระวัง และแต่ละอาการมีสาเหตุมาจากอะไร และควรจะแก้ไขยังไง ให้ต้นไม้กลับมาสวยงาม แข็งแรง ผลิใบออกดอกให้เราเห็นเหมือนเดิม 1. ใบเหลือง สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ต้นไม้ใบเหลือง เป็นเพราะรดน้ำมากเกินไป ความชื้นในดินสูง หรือดินแน่น ระบายน้ำยาก วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นคือ ตัดใบส่วนนั้นทิ้งไป จากนั้นเว้นการรดน้ำไปสักระยะ แล้วค่อยกลับมารดน้ำใหม่เมื่อดินแห้ง เช็กง่าย ๆ โดยใช้นิ้วกดลงไปในดินประมาณ 1 นิ้ว หากหน้าดินแห้งก็รดน้ำได้ แต่ถ้าดินยังแฉะก็ควรรอก่อน ส่วนในกรณีที่ดินแน่นเกินไปให้นำมาผสมวัสดุอื่น ๆ เช่น ขุยมะพร้าว ใบก้ามปู หรือรองก้นกระถางด้วยกาบมะพร้าวก่อนนำมาปลูก เพื่อเพิ่มช่องอากาศและช่วยให้ดินระบายน้ำได้ดีขึ้น 2. ใบไหม้ ต้นไม้ปลูกในบ้าน สาเหตุที่ทำให้ใบไหม้ส่วนใหญ่มักจะมาจากต้นไม้โ

อย่าใส่ปุ๋ยมากเกินความต้องการของพืช

รูปภาพ
 อย่าใส่ปุ๋ยมากเกินความต้องการของพืช เพราะพืชไม่ได้ต้องการปุ๋ยมากขนาดนั้นอ่านและทำความเข้าใจก่อนที่พืชของคุณจะยืนต้นตายให้ลองนึกถึงต้นไม้ในธรรมชาติไม่มีใครใส่ปุ๋ยเลยยังอยู่รอดได้หลายล้านปีเพราะที่จริงพืชใช้ธาตุอาหารอย่างพอดีเมื่อเราให้ปุ๋ยอย่างสมดุล พืชก็แข็งแรงลองนึกเปรียบเทียบกับเด็กหนึ่งคนก็ได้หากเราให้กินมากขึ้น 2 เท่า ก็ไม่สามารถทำให้โตเท่ากับเด็ก 10 ขวบ ในเวลาแค่ 5 ปีเช่นกันกับต้นไม้และพืชครับเด็กที่ได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอครบ 5 หมู่จะสามารถเติบโตตามพัฒนาการได้อย่างสมบูรณ์ แข็งแรง ฉลาด สดใสเช่นเดียวกับพืชที่ได้รับธาตุอาหารอย่างพอดีครับ ถ้าคุณให้ปุ๋ยมากเกินความต้องการของพืชโดยให้มานานช่วงระยะเวลาหนึ่งสิ่งที่จะตามมาก็คือ 1.ปุ๋ยที่เหลือตกค้าง พืชดูดซึมเกินกว่าความต้องการแล้วตกค้างอยู่ในเนื้อเยื่อ ทำให้ไปดึงดูดแมลงมาช่วยกิน ธรรมชาติจะพยายามกลับสู่จุดสมดุลเสมอตรงไหนที่มีแร่ธาตุมีอาหารมากก็จะมีสิ่งมีชีวิตหลายชนิดเข้ามาปัญหาแมลงกัดกินใบและเกิดหนอนจึงมากกว่าเดิม 2.ปุ๋ยที่มากเกินไปที่ดูดซึมตกค้างในเนื้อเยื่อกลายเป็นอาหารของเชื้อราเมื่อปุ๋ยมากก็จะทำให้พืชอ่อนแอ เมื่อแมลงกัดกินเกิดบาดแผลเ

การปลูกและบำรุงรักษาต้นไม้

รูปภาพ
 การปลูกและบำรุงรักษาต้นไม้   มีลำดับขั้นตอนดังนี้ 1. กำหนดวัตถุประสงค์ที่จะปลูก ข้อคำนึงถึงเบื้องต้น ในกรณีที่พื้นที่เตรียมการปลูกเป็นดินเหนียวจัด ควรเอาน้ำรดให้ชุ่มเสียก่อนเพื่อให้ขุดง่ายเบาแรงขึ้นดินที่ขุดขึ้นควรใช้ปูนขาว หรือ สารเคมีปรับปรุงดินบางชนิด เช่น โดโรไมค์ ผสมกับทรายและปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักคลุกเคล้ากับเนื้อดินตากแดดทิ้งไว้นานประมาณ 1-2 สัปดาห์ รดน้ำเป็นระยะพร้อมกับพรวนดินตามสมควร จะทำให้ดินร่วนและดีขึ้น สำหรับพื้นที่ที่ดินเป็นดินปนทรายมากการปรับปรุงดินจำเป็นต้องใส่ปูนขาวและปุ๋ยคอก เพื่อทำให้ดินจับเป็นก้อนแน่นอุ้มน้ำและมีอาหารพืชมากขึ้น 2. สำรวจพื้นที่เพื่อกำหนดเป็นที่ปลูก และคัดเลือกชนิดพันธุ์ไม้ที่จะปลูก รวมทั้งจัดหากล้าไม้การกำหนดพื้นที่ปลูกเมื่อผู้ปลูกได้ตัดสินใจกำหนดวัตถุประสงค์ของการปลูกต้นไม้ไว้เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่จำเป็นต้องกระทำต่อไปคือ การกำหนดพื้นที่เพื่อให้มีความเหมาะสมกับชนิดพันธุ์ไม้ที่เลือกปลูก หากเลือกพื้นที่ปลูกไม่สอดคล้องกับชนิดพันธุ์ไม้ที่ปลูกจะทำให้ได้ประโยชน์ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ โดยทั่วไปแล้วมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องนำมาประกอบการพิจารณาดังนี้ ปัจจัยแรกเกี่ยว

หลักการใช้ปุ๋ยเคมีให้ได้ผลดี

รูปภาพ
 ปุ๋ยเคมี เมื่อใส่ลงไปในดิน จะมีโอกาสสูญเสียไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง สำหรับธาตุไนโตรเจน และโพแทสเซียม ส่วนฟอสฟอรัสนั้น พืชดึงดูดไปใช้ประโยชน์ได้เพียงไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของปริมาณที่ใส่ลงไปในดิน ฟอสฟอรัสที่เหลือทั้งหมด จะทำปฏิกิริยากับดิน กลายเป็นสารประกอบที่ละลายน้ำยาก พืชดึงดูดไปใช้ไม่ได้ ดังนั้นการใส่ปุ๋ยลงไปในดิน เพื่อให้พืชสามารถดึงดูดไปใช้ได้มากที่สุดและสูญ เสียน้อยที่สุด จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ปุ๋ย ชนิดเดียวกัน สูตรเดียวกันใส่ลงไปในดินโดยวิธี แตกต่างกัน พืชจะใช้ ประโยชน์จากปุ๋ยได้ไม่เท่ากัน อาทิ ปุ๋ยที่ใส่แบบหว่านจะให้ผลแตกต่างจากปุ๋ยที่ ใส่โรยแบบเป็นแถวหรือเป็นจุดใกล้ต้นพืช ฉะนั้น การใช้ปุ๋ยเคมีให้มีประสิทธิภาพจึงควรมีหลักเกณฑ์ ในการใส่ปุ๋ยที่ควรจะยึดถือเป็นแนวทางดังนี้คือ (๑) ชนิดของปุ๋ยที่ใช้ถูกต้อง (๒) ใช้ปุ๋ยในปริมาณที่เหมาะสม (๓) ใส่ปุ๋ยให้พืชขณะที่พืชต้องการ (๔) ใส่ปุ๋ยให้พืชตรงจุดที่พืชสามารถดึงดูดไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายและเร็วที่สุด (๑) ชนิดของปุ๋ยที่ใช้ถูกต้อง การใช้ปุ๋ยที่ถูกต้องนั้น หมายถึง สูตร เรโช และรูปของธาตุอาหารในปุ๋ย ปุ๋ยเคมีจะมีทั้งสามอย่างนี้ แตกต่างกันออกไปอย่างก

ทำความรู้จัก “ภัยแล้ง” กับพืชที่ควรปลูก เพิ่มผลผลิตมีรายได้เลี้ยงชีพ

รูปภาพ
 ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “ภัยแล้ง” เป็นปัญหาทางธรรมชาติที่เกษตรกรหลายคนไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ถึงกระนั้นเราก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เนื่องจากเมืองไทยของเรามักมีปัญหาเรื่องน้ำไม่เพียงพอต่อการเกษตรบ่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน จะทำอย่างไรดีเพื่อให้ยังคงเพิ่มผลผลิตมีรายได้เลี้ยงชีพต่อไป เป็นสิ่งที่ต้องมองหาแนวทางอย่างถูกต้อง เพื่อรู้จักกับปัญหาดังกล่าวรวมถึงเข้าใจวิธีแก้ไข ทำความรู้จัก “ภัยแล้ง” คืออะไร? ต้องอธิบายว่าภัยแล้ง คือ ความแห้งแล้งที่เกิดขึ้นทางธรรมชาติจากภัยทางอากาศและพื้นดิน ที่เราไม่สามารถควบคุมหรือคาดเดาได้ เมื่อฝนที่ควรตกลงมาให้ความชุ่มชื้นกลับไม่เป็นไปตามฤดูกาล หรือตกลงมาน้อยกว่าปกติ พื้นดินจึงเกิดความแห้งแล้ง ส่งผลกระทบต่อผู้คน เศรษฐกิจ สังคม โดยเฉพาะภาคเกษตรกร ประเทศไทยเราพบได้บ่อยในภาคอีสาน หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะเกิดมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน ทั้งความชื้นในอากาศ ความชื้นในดิน ระยะเวลาที่แห้งแล้ง ขนาดของพื้นดินที่แห้งแล้ง เป็นต้น อย่างไรแล้ว ภัยแล้วเกิดขึ้นได้ทั้งทางธรรมชาติ อย่างที่บอกคือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป อุณหภูมิโลห ระดับน้ำทะเล ภัยทางธรรมชาติ อย่างฝนไม

7 พืชระยะสั้น ปลูกง่าย ปลูกขายเพิ่มรายได้เร็ว

รูปภาพ
จะดีแค่ไหนถ้าพืชผักที่กินอยู่ทุกวัน สามารถสร้างรายได้ให้แก่คุณ โดยไม่ต้องใช้พื้นที่ขนาดกว้าง แต่ปลูกได้ในพื้นที่เล็ก ๆ บริเวณบ้าน บ้านและสวน ขอแนะนำ 7 พืชระยะสั้น นำไปปลูกขายเพิ่มรายได้ง่าย ๆ ให้ตัวเอง การปลูกพืชนั้นหลัก ๆ สามารถแบ่งเป็น 3 ระยะคือ พืชระยะยาว พืชระยะกลาง และ พืชระยะสั้น โดยพืชระยะสั้นที่เรานำมาแนะนำวันนี้ จะเป็นพืชที่ให้ผลผลิตเร็ว สามารถเก็บเกี่ยวได้ภายในระยะไม่เกิน 2 เดือน จึงนิยมปลูกเพื่อรับประทานในครัวเรือน และเหมาะนำไปจำหน่ายสร้างรายได้ได้อีกทาง ทั้งนี้ก่อนเริ่มต้นปลูกพืชระยะสั้นที่เรานำมาฝาก ขั้นตอนสำคัญลำดับแรก ๆ คือ การเตรียมพื้นที่ปลูก และการเตรียมดิน ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เพื่อให้ผักที่เราปลูกนั้นได้สารอาหารครบถ้วน งอกงาม สมบูรณ์ และขายได้ราคาดี ส่วนจะมีผักชนิดใด และมีเทคนิคการปลูกอย่างไรบ้าง ตามไปดูกันเลย •เตรียมดินและฟื้นฟูดินสำหรับปลูกผัก •ระบบน้ำหยดทำเอง พืชระยะสั้น ถั่วงอก หลายคนคงคุ้นเคยกันดีในการปลูกพืชชนิดนี้ เพราะตอนเด็กวิชาเกษตรหลายโรงเรียนมักให้นักเรียนได้ทดลองกันปลูกถั่วงอก ซึ่งเป็นพืชที่ปลูกง่าย โตเร็ว ไม่จำเป็นต้องให้ปุ๋ย เพียงให้น้ำอย่างเ

ปลูกพืชให้ได้ผลผลิตดี ต้องเข้าใจธรรมชาติของพืช

รูปภาพ
การปลูกพืช ไม่ว่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจกิจชนิดใด หากต้องการให้ได้ผลผลิตดีตามที่เกษตรกรต้องการนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องเข้าใจธรรมชาติของพืชและความเหมาะสมของแต่ละช่วงเวลาที่เกี่ยวข้องกับพืชแต่ละชนิด จึงจะเกิดผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ตามต้องการ อ.อธิศพัฒน์ วรรณสุทธิ์ ปราชญ์เกษตรมูลนิธิชัยพัฒนา จ.เลย ยินดีเผยแพร่ข้อมูลความรู้ เกี่ยวกับการศึกษาธรรมชาติของพืชแต่ละชนิด และ การปลูกที่เหมาะสมตามเวลา ที่เกษตรกรควรศึกษาและรับรู้ก่อนการลงมือปลูกพืชใดๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีตรงตามความต้องการ ไว้ดังนี้ 1.ต้องเข้าใจธรรมชาติของรากพืชแต่ละชนิด เพราะพืชใช้รากในการหาอาหารมาบำรุงการเจริญเติบโต เมื่อเรารู้แล้ว จะสามารถจัดการได้อย่างเหมาะสม - ผักกินใบ เป็นพืชรากสั้น ประมาณ 10 เซนติเมตร - ผักกินผล เป็นพืชที่มีรากผิวดิน หากินตื้นๆบริเวณหน้าดิน - ไม้ผล เป็นพืชที่มีรากลึก ประมาณ 30-50 เซนติเมตร 2.ต้องเข้าใจช่วงเวลา ที่เหมาะสมตามฤดูกาลปลูก ของพืชแต่ละชนิด ดังนี้ - มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เป็นฤดูร้อน เหมาะในการปลูกผักกินผล เช่น ฟัก แฟง แตงกวา มะเขือเทศ มะละกอ พริก เป็นต้น - เมษายน งดปลูกพืช พักคน พักดิน เพราะอากาศร