สิ่งมีชีวิตในดิน
สิ่งมีชีวิตในดินประกอบด้วย พืช และสัตว์ มีทั้งทมองเห็นด้วยตาเปล่า และต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ บางชนิดมีประโยชน์ในการช่วยย่อยสลายของินทรีย์วัตถุต่างๆ หรือช่วยในการปลดปล่อยธาตุอาหารพืชให้พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ และมีบางพวกที่สามารถตรึงไนโตรเจนจากอากาศได้ บางชนิดอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต และพืชได้
ความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์ในดินจำเป็นต้องได้รับการศึกษา เพราะสัตว์ในดินมีความสำคัญต่อระบบนิเวศเนื่องจากเป็นผู้ย่อยสลาย และเพื่อเป็นการสงวนรักษาพันธุ์พืชและสัตว์ สัตว์ในดินที่มีปริมาณและความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สดคือ สัตว์ที่มีข้อปล้อง เช่น ด้วง
ปัจจุบัน การวิจัยเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในดินมีน้อยกว่างานวิจัยอื่นๆ เนื่องจากเป็นงานที่ยุ่งยากซับซ้อน สิ่งมีชีวิตในดินที่ได้รับการศึกษามากที่สุดในขณะนี้คือ ปลวก มด และไมโครไรซ่า ซึ่งเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง และจุลินทรีย์ในดินที่สำคัญ ประเทศไทยสัตว์ในดินที่ได้รับการศึกษามากที่สุด คือ มด ในขณะที่สิ่งมีชีวิตในดินกลุ่มอื่นๆ เช่น ด้วง ไส้เดือนฝอย ไร หรือ ราในดินได้รับการศึกษาน้อยทั้งที่น่าจะได้รับการศึกษามากที่สุด เนื่องจากมีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตมากในการศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพของสิ่งมีชีวิตในดิน จำเป็นต้องมีความเข้าใจลักษณะทางกายภาพและลักษณะทางนิเวศวิทยาของดิน
บทบาทของสัตว์ในดินที่มีต่อดิน
เป็นผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์
ขบวนการย่อยสลายสารอินทรีย์เกิดขึ้นจากแบคทีเรียและเชื้อรา แต่ขบวนการย่อยสลายซากพืช ซากสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องอาศัยสัตว์ในดินขนาดใหญ่กว่าจุลินทรีย์ เช่น ปลวก ไส้เดือน กิ้งกือ เห็บ หรือ ไร เป็นต้น เป็นตัวช่วยเร่งการแตกสลายตัวของวัตถุขนาดใหญ่ให้มีขนาดเล้กลงเพื่อให้จุลินทรีย์สามารถทำหน้าที่ย่อยสลายวัตถุที่มีขนาดเล็กต่อไป
ช่วยในการหมุนเวียนแร่ธาตุ
ขบวนการหมุนเวียนแร่ธาตุในดินมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับขบวนการย่อยสลายสารอินทรีย์วัตถุ ในขบวนการย่อยสลายการอินทรียวัตถุ จุลินทรีย์คือตัวการสำคัญที่สุดของกระบวนการย่อยสลาย แต่อัตรการย่อยสลายขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงขนาดวัตถุ โดยสัตว์ขนาดเล็กและขนาดกลางในดิน เช่น ปลวก โปรโตซัว และไส้เดือนฝอย สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเหล่านี้มีส่วนร่วมในขบวนการย่อยสลาย โดยการกินซากอินทรียวัตถุขนาดใหญ่และถ่ายออกมา จุลินทรีย์ในดินจะสามารถย่อยสลายมูลสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปล่อยลงสู่ดิน รากพืชจะสามารถดูดเอาแร่ธาตุในดินโดยผ่านสิ่งมีชีวิตในดินที่มีความสัมพันธ์ร่วมกันกับซากพืช และสามารถตรึงไนโตรเจนในดินมาใช้ประโยชน์ ซึ่งบทบาทในการช่วยหมุนเวีบยนแร่ธาตุธาตุอาหารในดินเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิตในดิน รวมทั้งพืชและสัตว์มีประโยชน์ต่อกิจกรรมทางเกษตรและป่าไม้อย่างมาก
ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน
ปลวก ไส้เดือน มดหรือสัตว์ในดินขนาดเล็ก และเศษซากพืชขนาดเล็ก คือ ตัวช่วยปรับปรุงคุณสมบัติของดิน เนื่องจากมีการเคลื่อนย้ายในดินทำให้ดินมีการปรับปรุงโครงสร้างในดิน เช่น มด ปลวกสร้างรังในดิน ทำให้สารอินทรีย์วัตถุจากดินชั้นบนเคลื่อนย้ายลงสู่ดินชั้นล่างได้ ทำให้เกิดช่องว่างให้สัตว์ขนาดเล้กและจุลินทรีย์สามารถเคลื่อนย้ายลงสู่ดินลึกได้ ทำให้เกิดช่องว่างในดิน เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ดินมีสภาพเหมาะสมต่อการดำรงอยู่ของสัตว์ในดินที่มากยิ่งขึ้น
ช่วยควบคุมแมลงศัตรูและเชื้อโรคในดิน
ในสภาพธรรมชาติ การระบาดของแมลงศัตรูพืชและเชื้อโรคในดินเป็นไปได้ยาก ในขณะที่แปลงเกษตรกรรมและสวนป่าจะพบการระบาดของศัตรูพืชได้อยู่เสมอ พื้นที่ที่มีความหลากหลายต่ำ เช่น แปลงปลูกพืชหรือพื้นที่วนเกษตร มีปัจจัยที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสัตว์ในดิน เนื่องจากการกระทำของเกษตรกรมีผลต่อการลดลงของสิ่งมีชีวิต เช่น การใช้สารปราบศัตรูพืช การเผาหญ้าและตอซังข้าว เพราะสัตว์ในดินส่วนมากจะเป็นตัวย่อยสลายอินทรียวัตถุ จะช่วยทำให้เกิดความสมดุลในธรรมชาติ หากการกระทำที่ทำให้สัตว์ในดินชนิดใดชนิดหนึ่งลดจำนวนลง อาจมีผลทำให้เกิดการระบาดของสัตว์หรือโรคที่เป็นศัตรูพืชชนิดใดชนิดหนึ่งขึ้นมาได้ การใช้สารเคมีและการปล่อยให้มีซากพืชปกคลุมอย่างเหมาะสมจะเป็นการช่วยให้สัตว์ในดินคงอยู่และก่อให้เกิดความสมดุลในระบบนิเวศ
ตัวอย่างสิ่งมีชีวิตในดิน
กลุ่มด้วง กลุ่มปลวก
กลุ่มมด กลุ่มไมคอร์ไรซา
ไส้เดือน
อ้างอิง สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. รายงานการประชุม เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพทางการเกษตร :
ผู้ผสมเกสรและสิ่งมีชีวิตในดิน. 2552
####
iLab.work ผู้ให้บริการ ตรวจวิเคราะห์ค่า ดิน น้ำ ปุ๋ย ในรูปแบบออนไลน์ ที่ใช้บริการง่ายที่สุด เพียงแค่นับ 1 2 3 ภายใต้มาตฐาน ISO/IEC 17025
1. เลือกชุดตรวจแนะนำ หรือเลือกเองตามต้องการที่ www.ilab.work ระบบจะคำนวณค่าใช้จ่าย ในการตรวจวิเคราะห์ให้ท่านทราบขณะเลือกทันที
2. ส่งตัวอย่าง ดิน น้ำ หรือ ปุ๋ย ที่ต้องการตรวจวิเคราะห์ไปที่ iLab [ห้องปฏิบัติการ อัยย์แลป (iLab) เลขที่ 94/1 ม.8 ต.ตระคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี 71120] ทาง ไปรษณีย์ หรือ เคอรี่ หรือ แฟรช ตามที่ลูกค้าสะดวก และ ชำระเงินค่าตรวจ
3. รออ่านผลตรวจวิเคราะห์ออนไลน์หน้าเว็บไซต์ (ผลตรวจออกใน 3-15 วัน)
สอบถามเพิ่มเติม
โทร 090 592 8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น