7 เทคนิคที่ต้องรู้ ! ก่อนปลูกผักสวนครัว
เปลี่ยนข้อผิดพลาดของมือใหม่ที่เคยทำในการปลูกผักสวนครัว ด้วยเทคนิคที่ต้องรู้ก่อนลงมือปลูกผัก เพื่อผลที่งอกงามตามความต้องการ
ความกว้างขว้างของพื้นที่หน้าบ้านดลบันดาลให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ อยากลองทำโน้นนั่นนี่ เต็มไปหมด แต่การปลูกผักสวนครัวน่าจะเป็นคำตอบที่ง่าย ประหยัด และเพื่อประโยชน์อีกมากมาย ซึ่งบางครั้งสิ่งที่คิดก็ไม่ได้ออกมาตามความตั้งใจสักเท่าไรเลยสำหรับมือใหม่หัดปลูก ดังนั้นกระปุกดอทคอมจึงนำเอาสิ่งที่ควรรู้ก่อนการเริ่มต้นมาฝากกัน ไปดูเลยว่าควรวางแผนอะไรก่อนบ้าง
7 เทคนิคที่ต้องรู้ ! ก่อนปลูกผักสวนครัว
1. ปลูกน้อยชนิด เพิ่มผลผลิตให้มาก
ก่อนจะออกไปซื้อเมล็ดพันธ์ต้องคิดให้ดีก่อนว่าครอบครัวของเรานั้นเน้นรับประทานผักชนิดใด ใช้เสียงส่วนใหญ่เลือก ถ้าบ้านไหนเข้าขั้นมังสวิรัติ รายชื่อผักต้องมาเป็นหางว่าวแน่เลย อย่าค่ะ ! ตัดทอนออกให้เหลือแค่ 2-3 ชนิดที่จำเป็นเท่านั้น และเพิ่มจำนวนในการปลูกแต่ละชนิดให้ได้ผลมาก แต่ถ้าคุณเน้นหลากหลายชนิด ก็ต้องเตรียมรับมือกับการดูแลที่หลากหลายวิธีไปด้วย จะพาให้ตายกันหมด
2. อย่าปลูกเยอะจนเกินไป
การปลูกผักสวนครัวไม่ได้จำกัดว่าจะต้องลงพื้นดินเท่านั้น คนที่อยู่คอนโด อพาร์ทเม้นท์ หรือบ้านพื้นที่น้อย ก็เล่นสนุกกับการปลูกผักได้ในแปลงกระบะพลาสติก ก็อีกเช่นเคยถึงแม้จะปลูกน้อยชนิด แต่ในข้อนี้ต้องจำกัดจำนวน และแบ่งพื้นที่แต่ละให้เหมาะสมด้วย พืชคงไม่สามารถเอื้อน้ำและอาหารให้กันและกันได้อย่างเรา เบียดกันไปมาสุดท้ายก็ต้องเหี่ยวเฉาไปตามกาลเวลาอยู่ดี
3. จัดตารางรดน้ำให้ดีเชีย
ไหน ๆ ก็ลงมือปลูกมาแล้ว ก็อย่าปล่อยให้เสียเปล่า มาวางแผนรดน้ำต้นไม้กันดีกว่า เพราะถ้าหากไม่ทำแบบนี้คุณก็จะผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย จนผักที่ปลูกต้องเฉาตาย และทริคง่าย ๆ กับการจ่ายบิลค่าน้ำแบบคล่องมือ คือหาถังขนาดใหญ่ไปรองน้ำฝนที่ท่อรางน้ำฝน เพื่อเก็บไว้รดน้ำต้นไม้ในฤดูอื่นด้วย แค่นี้ก็คุ้มเกินคุ้ม
7 เทคนิคที่ต้องรู้ ! ก่อนปลูกผักสวนครัว
4. ปลูกข้ามฤดู เพื่อกินอยู่สบาย
อย่าเพิ่งดีใจไปว่าผักสวนครัวทุกชนิดจะปลูกข้ามฤดูกาลได้หมด เป็นบางชนิดเท่านั้นแหละ อย่างผักประจำฤดูฝน (กลางพฤษภาคม-กลางตุลาคม) ก็ปลูกในช่วงต้นหนาว (กลางตุลาคม-กลางกุมภาพันธ์) ได้เหมือนกัน เช่น กะหล่ำปลี บล็อกโคลี หอมใหญ่ มะเขือเทศ เป็นต้น ต้องตระเตรียมเมล็ดพันธุ์กันให้ดี เพื่อให้มีผลผลิตไว้กินข้ามฤดูกันเลย
5. รั้วล้อมผักที่รัก
อีกหนึ่งอุปสรรคที่จัดการได้ไม่ยากสำหรับการปลูกผัก เหล่าสัตว์น้อยใหญ่ที่น่ารักชอบทั้งหลาย มักจะเข้ามาทำลายและกัดกินพืชผักที่เราปลูกไว้จนเสียหาย ทำให้เรายืนอยู่ในระดับกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันไป อย่าคิดทำบาปเลยเพราะแค่ล้อมรั้วผักไว้ เจ้าสัตว์จอมกินไม่เลือกก็จะเข้ามาทำลายผักสด ๆ ของเราไม่ได้แล้ว
6. จดบันทึกลงลึกเรื่องปรับปรุง
ดูเหมือนจะให้ย้อนวันวานกลับไปเป็นเด็กนักเรียน ที่ต้องจดบันทึกการปลูกเขียวให้ได้ถั่วงอก เทคนิควิชาการแบบนี้ก็ยังนำมาใช้ในชีวิตจริงได้เสมอ การเก็บรวมข้อมูลการปลูกพืชผักทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ช่วงเวลา ชนิด วิธีการปลูก การเจริญเติบโต หรือจำนวนผลผลิต ทำให้เราได้บทเรียนไม่ว่าจะถูกหรือผิด แล้วนำมาปรับปรุงเพื่อสวนครัวที่สมบูรณ์แบบ
7 เทคนิคที่ต้องรู้ ! ก่อนปลูกผักสวนครัว
7. ปลูกตอนนี้ได้กินตามฤดู
ช่วงระยะเวลาก็สำคัญเช่นกันนะ พืชคุ้นหน้าคุ้นตาอย่าง กวางตุ้ง คะน้า สะระแหน่ โหระพา กะเพรา ตำลึง กระชาย ข่า ตะไคร้ พริกขี้หนู ฯลฯ สามารถปลูกยืนพื้นได้ตลอดทั้งปี แต่สำหรับบางชนิดนั้น อยู่ ๆ จะให้มาลงดินฝังเมล็ดเพื่อหวังกินเลยคงไม่ได้แน่นอน ต้องรู้ซะก่อนว่าพืชตามแต่ละฤดูกาลมีอะไรบ้าง ให้เขาได้งอกงามตามสภาพอากาศที่ชอบ จากนั้นบวกลบระยะเวลาของการผลิดอกออกผลให้ไปตรงกับฤดูของพืชนั้น ๆ แล้วเราก็จะรู้ว่าควรลงมือปลูกตอนไหน ให้กินได้ตามฤดูและสภาพอากาศ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ดังนี้
- ฤดูร้อน ต้องสรรหาพืชที่ทนต่อความร้อนแห้งแล้งได้อย่าง บวบ มะระ ผักกาดหอม ผักกาดขาว ผักชี ถั่วฝักยาว น้ำเต้า ฟักทอง ถั่วพู ข้าวโพดหวาน ข้าวโพดเทียน
- ฤดูฝน (ช่วงต้น) ควรปลูกผักกาดเขียว กวางตุ้ง ผักบุ้ง พริก มะเขือ ผักกาดหอม บวบ มะระ แตงกวา น้ำเต้า กระเจี้ยบเขียว
- ฤดูฝน (ช่วงปลาย) พืชที่ควรปลูกในช่วงปลายฝนต้นหนาวได้แก่ กะหล่ำปลี ถั่วลันเตา หอมใหญ่ แครอท พริกหยวก มะเขือเทศ ขึ้นฉ่าย
- ฤดูหนาว ต้องปลูก ผักกาดขาว ถั่วพู ผักชี ขึ้นฉ่าย ผักกาดหอม มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ ตั้งโอ๋ บล็อกโคลี แครอท เป็นต้น
ทั้งเซฟเงินในกระเป๋าและที่สำคัญร่างกายก็ยังได้รับสารอาหารจากผักที่เราปลูกเองแบบเต็มที่อีกด้วย แล้วจะรอช้าอยู่ทำไมไปวางแผนจัดสวนตามนี้กันเลยดีกว่า
ข้อมูลจาก https://home.kapook.com/view113933.html
####
iLab.work ผู้ให้บริการ ตรวจวิเคราะห์ค่า ดิน น้ำ ปุ๋ย ในรูปแบบออนไลน์ ที่ใช้บริการง่ายที่สุด เพียงแค่นับ 1 2 3 ภายใต้มาตฐาน ISO/IEC 17025
1. เลือกชุดตรวจแนะนำ หรือเลือกเองตามต้องการที่ www.ilab.work ระบบจะคำนวณค่าใช้จ่าย ในการตรวจวิเคราะห์ให้ท่านทราบขณะเลือกทันที
2. ส่งตัวอย่าง ดิน น้ำ หรือ ปุ๋ย ที่ต้องการตรวจวิเคราะห์ไปที่ iLab [ห้องปฏิบัติการ อัยย์แลป (iLab) เลขที่ 94/1 ม.8 ต.ตระคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี 71120] ทาง ไปรษณีย์ หรือ เคอรี่ หรือ แฟรช ตามที่ลูกค้าสะดวก และ ชำระเงินค่าตรวจ
3. รออ่านผลตรวจวิเคราะห์ออนไลน์หน้าเว็บไซต์ (ผลตรวจออกใน 3-15 วัน)
สอบถามเพิ่มเติม
โทร 090 592 8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น