พืชหมุนเวียน ปรับปรุงดิน มีรายได้ตลอดทั้งปี
พืชหมุนเวียน แนวทางเกษตรเพื่อปรับปรุงดิน-เพิ่มรายได้ มีผลผลิตทั้งปี!
การปลูกพืชหมุนเวียน หมายถึงการปลูกพืชหลากหลายชนิดหมุนเวียนกันในพื้นที่เดิม โดยมีการจัดลำดับพืชอย่างเป็นระบบ และเลือกพืชที่ลักษณะเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ แนวทางนี้อาจไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเพื่อนเกษตรกรมือเก๋า แต่สำหรับเกษตรกรมือใหม่แล้ว การเลือกปลูกพืชหมุนเวียนจะช่วยทั้งเรื่องการปรับปรุงดิน และเพิ่มช่องทางรายได้เสริมได้อีกด้วย โดยพืชหมุนเวียนมีต้นกำเนิดจากทาสในไร่ฝ้าย อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ รู้หรือไม่? การปลูกพืชหมุนเวียน ถูกคิดค้นโดยอดีตทาสในไร่!
ประโยชน์มากมายของพืชหมุนเวียน
การปลูกพืชหมุนเวียนนั้นอาจต้องใช้ความรู้ความเข้าใจในพืชชนิดอื่นมากขึ้น ต้องมีการจัดการหลายขั้นตอนกว่าเดิม จึงอาจมีคำถามว่า “ทำแล้วได้อะไร?” ซึ่งจริงๆแล้ว ประโยชน์ของพืชหมุนเวียนมีมากมายดังนี้
พืชแต่ละชนิดนั้นมีความต้องการธาตุอาหารต่างกัน เมื่อมีการปลูกพืชชนิดเดิมซ้ำๆ ธาตุอาหารชนิดนั้นก็จะขาดหายไปจากดิน การสลับชนิดพืชจึงทำให้ธาตุอาหารในดินถูกนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดินมีสารอาหารอื่นๆ เพิ่มเติม รวมถึงเป็นการฟื้นฟูคุณภาพทางกายภาพของดินให้มีความร่วนซุย เหมาะแก่การเพาะปลูก
โรคและแมลงจะอาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมเมื่อพบว่าพืชยังคงเป็นชนิดเดิมเสมอ การเปลี่ยนชนิดพืชจึงลดเชื้อโรคพืชในดินลง รวมถึงรบกวนวงจรชีวิตศัตรูพืชได้
เมื่อธาตุอาหารสมบูรณ์ มีโรคและแมลงลดลง เกษตรกรก็สามารถลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงดินและไร่ ทำให้มีเงินเก็บเหลือใช้พัฒนาส่วนอื่นต่อไป
ปลูกพืชหมุนเวียนทำอย่างไร? ต้องปลูกพืชอะไรบ้าง?
ในการปลูกพืชหมุนเวียนนั้น ต้องมีการสลับปลูกระหว่างพืช 3 ชนิด ดังนี้
พืชช่วยสร้างดิน คือ พืชที่เพิ่มธาตุอาหารและป้องกันการพังทลายของดิน โดยพืชชนิดนี้จะมีลักษณะคลุมดินหนาแน่น ได้แก่ พืชตระกูลถั่ว ที่ช่วยเพิ่มไนโตรเจน ซึ่งเป็นพืชที่มีรากฝอยหยั่งลึกในดิน ต้องการการไถพรวนน้อย ระยะเติบโตสูงสุดในช่วงฝนมาก
พืชอนุรักษ์ดิน คือ พืชที่รักษาปริมาณอินทรีย์วัตถุและป้องกันการพังทลายของดินเช่นกัน เพราะไม่ถูกรบกวนบ่อยเนื่องจากต้องการการไถพรวนน้อย ได้แก่ธัญพืชต่างๆ เช่น ข้าวสาลี ข้าวไร่ ข้าวฟ่าง และพืชอาหารสัตว์ต่างๆ
พืชทำลายดิน คือ พืชที่ดึงธาตุอาหารจากดินไปใช้ในปริมาณมากและรวดเร็ว ปกคลุมดินน้อย ต้องการการพรวนดินบ่อยครั้งจึงทำให้ผิวดินถูกทำลาย มีระยะระหว่างแถวมากจึงไม่ยึดผิวดิน และมักจะปลูกในช่วงฝนตกชุก ได้แก่ข้าวโพด อ้อย ยาสูบ มันสำปะหลัง มันฝรั่ง และพืชผักต่างๆ
การปลูกพืชหมุนเวียนควรปลูกสลับกันเป็นวงจรทั้งหมด 3 ชนิดดังกล่าว โดยหากดินมีคุณภาพดีอยู่แล้ว สามารถเริ่มวงจรจากพืชชนิดที่ 3 เมื่อเก็บเกี่ยวก็ปลูกพืชชนิดที่ 2 และ 1 ตามลำดับ แล้ววนกลับมาที่พืชชนิดที่ 3 อีกครั้ง แต่ถ้าหากคุณภาพของดินในปัจจุบันยังไม่ดี ก็สามารถเริ่มที่พืชชนิดที่ 1 แล้วค่อยไปปลูกพืชชนิดที่ 2 และ 3 ได้ เพื่อปรับโครงสร้างดินก่อนปลูกพืชหลัก
อาจจะเห็นได้ว่า การปลูกพืชหมุนเวียนต้องผ่านการวางแผนอย่างดี เพื่อเลือกปลูกพืชแต่ละชนิดให้ตรงกับช่วงเวลาและฤดูกาล แต่หากมีการบริหารจัดการที่ดี ก็จะทำให้ได้รับผลดีทั้งเรื่องดินและรายได้ อย่างไรก็ตาม การหาตลาดเพื่อรองรับพืชแต่ละชนิดที่จะปลูกก็ถือเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน สามารถสอบถามตลาดบริเวณใกล้เคียงหรือตลาดใหญ่ประจำจังหวัดเพื่อหาแหล่งรับซื้อ หากเพื่อนเกษตรกรคนไหนมีเทคนิคในการปลูกพืชหมุนเวียน หรือได้ผลดีอย่างไร แบ่งปันประสบการณ์ใต้โพสต์นี้ได้เลย เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการปลูกพืชหมุนเวียนให้เพื่อนเกษตกรท่านอื่นๆ และสร้างความยั่งยืนในชุมชน
ขอบคุณข้อมูลจาก http://e-library.ldd.go.th/library/flip/bib9571f/bib9571f.html#p=119 31
ข้อมูลจาก https://kasetgo.com/t/topic/225341
####
iLab.work ผู้ให้บริการ ตรวจวิเคราะห์ค่า ดิน น้ำ ปุ๋ย ในรูปแบบออนไลน์ ที่ใช้บริการง่ายที่สุด เพียงแค่นับ 1 2 3 ภายใต้มาตฐาน ISO/IEC 17025
1. เลือกชุดตรวจแนะนำ หรือเลือกเองตามต้องการที่ www.ilab.work ระบบจะคำนวณค่าใช้จ่าย ในการตรวจวิเคราะห์ให้ท่านทราบขณะเลือกทันที
2. ส่งตัวอย่าง ดิน น้ำ หรือ ปุ๋ย ที่ต้องการตรวจวิเคราะห์ไปที่ iLab [ห้องปฏิบัติการ อัยย์แลป (iLab) เลขที่ 94/1 ม.8 ต.ตระคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี 71120] ทาง ไปรษณีย์ หรือ เคอรี่ หรือ แฟรช ตามที่ลูกค้าสะดวก และ ชำระเงินค่าตรวจ
3. รออ่านผลตรวจวิเคราะห์ออนไลน์หน้าเว็บไซต์ (ผลตรวจออกใน 3-15 วัน)
สอบถามเพิ่มเติม
โทร 090 592 8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น