ทำไมต้องทำแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์

 ตามนโยบายของ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ที่มีการส่งเสริมอาชีพด้านการเลี้ยงสัตว์ให้กับเกษตรกร โดยการปรับปรุงสายพันธุ์โคพื้นเมือง ให้เป็นโคพันธุ์ลูกผสม

ทำให้เกษตรกรจำนวนมากสนใจ ที่จะเลี้ยงโคเนื้อ และโคนม ทำให้มีการเพิ่มปริมาณโคมากขึ้น จึงทำให้ทุ่งหญ้าตามธรรมชาติ ไม่พอเพียง สำหรับการเลี้ยงสัตว์

ฉะนั้น ในการเลี้ยงโคเนื้อ และโคนม เกษตรกรจึงจำเป็นต้องปลูกแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ เป็นของตนเอง หรือกลุ่ม เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของโค

แปลงหญ้า เลี้ยงสัตว์ที่ดีควรประกอบด้วยหญ้าและถั่วอาหารเลี้ยงสัตว์ เพื่อ.-

(ก) ทำให้มีอาหารที่มีคุณภาพดีแก่สัตว์

(ข) ทำให้ดินดีขึ้น

(ค) ป้องกันการพังทลายของดิน

การมีแปลงหญ้าที่ดีจะทำให้ สุขภาพของสัตว์ดีขึ้น สัตว์โตเร็วขึ้น สัตว์ให้ลูก และนมมากขึ้น   ดินดีขึ้นจะมีธาตุอาหารสำหรับพืชมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ผลผลิตของพืชสูงขึ้น 

แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์อาจแบ่งเป็น๒ประเภท

(ก) ประเถทถาวร มีอายุหลายปี แต่ผลผลิตจะลดลงเมื่ออายุ ๔ - ๕ ปี จึงควรไถพรวน แล้วปลูกซ่อม แล้วใส่ปุ๋ยหรือไถทิ้งแล้วปลูกใหม่

(ข) ประเภทหมุนเวียน เป็นแปลงหญ้าที่แนะนำให้ปลูกในที่ดอนที่ดินไม่ดี และเกษตรกร ยังนิยมปลูกพืชไร่ โดยปลูกแปลงหญ้า ๓ ปี สลับกับพืชไร่

แปลงหญ้าประเภทใดที่ควรปลูก

ควรปลูกหญ้าผสมกับถั่วอาหารสัตว์ในแปลงเดียวกัน 

แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ที่ดีควรประกอบด้วยหญ้า ๒ ส่วนและถั่วอาหารสัตว์ ๑ ส่วน 

ในการปลูก ควรปลูกหญ้า ๒ แถว สลับกับถั่วอาหารสัตว์ ๑ แถว 

การปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ที่ดีจะทำให้ผลผลิตเป็น ๓ เท่าของแปลงหญ้าตามธรรมชาติ    และคุณภาพของอาหารสัตว์ก็ดีกว่าด้วย 

การใช้แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์

ก. เกี่ยวให้กิน (เกี่ยวมาให้สัตว์กิน) แปลงหญ้าที่ปลูกสำหรับเลี้ยงสัตว์แบบเกี่ยวให้กิน อาจปล่อยสัตว์เข้าไปกินเองได้เหมือนกัน แต่ปกติจะเกี่ยวแล้วขนมาให้สัตว์กิน

นอกแปลง ซึ่งจะทำให้สูญเสียผลผลิตน้อยกว่าแต่ต้องใช้แรงงานมาก

ข. ปล่อยเลี้ยง(ปล่อยให้สัตว์แทะเล็มในแปลง) แปลงหญ้าที่ปลูกสำหรับเลี้ยงสัตว์

แบบปล่อยเลี้ยงต้องการแรงงานน้อยกว่า แต่ต้องมีการจัดการดูแลที่ดี เพื่อให้แปลงมีหญ้าและถั่วอาหารสัตว์ในสัดส่วนที่เหมาะสม

ควรปลูกหญ้าพันธุ์ใด

หญ้าพันธุ์ดี เช่น พันธุ์รูซี่ ให้ผลผลิตสูงกว่าหญ้าพันธุ์พื้นเมือง    และมีระยะการเจริญ    เติบโตนานกว่า 

หญ้าพันธุ์ดีเป็นอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพดีและยังช่วยป้องกันการพังทลายของดิน 

การเลือกพันธุ์หญ้าที่จะปลูกขึ้นอยู่กับลักษณะของพื้นที่จะใช้ปลูก

(ก) พื้นที่ที่มีการระบายน้ำดี 

(ข) ที่ลุ่มมีความชื้นสูง 

 ก. ที่ดอนที่มีการระบายน้ำดี 

หญ้ารูซี่ 

ปลูกง่ายทั้งจากเมล็ดและต้นพันธุ์ 

โตเร็วและให้ผลผลิตสูง 

มีคุณภาพสูง

มีอายุหลายปีถ้ามีการดูแลรักษาดี 

เหมาะทั้งกับการปล่อยเลี้ยง และเกี่ยวให้กิน 

เจริญเติบโตได้ในดินแทบทุกชนิด 

มีการแตกกอดีซึ่งจะช่วยปกคลุมดินได้

หญ้ากินนี หญ้าเฮมิล หญ้ากินนีสีม่วง

มีลำต้นสูงและให้ผลผลิตสูง

เหมาะสำหรับการเลี้ยงแบบเกี่ยวให้กิน

ต้องเกี่ยวหรือตัดทุก ๓๕ - ๕๐ วัน 

หญ้าซิกแนล

ให้ผลผลิตสูงและมีคุณภาพทางอาหารดี 

ให้ผลผลิตเมล็ดน้อย จึงควรปลูกจากต้นพันธุ์ 

หญ้าเนเปียร์ ไฮบริดเนเปียร์

ให้ผลผลิตสูงในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงและดินดี ปลูกโดยใช้ต้นพันธุ์ 

ข. ที่ลุ่มมีความชื้นสูง

 หญ้าขน

มีคุณค่าทางอาหารสูง 

สามารถขยายพันธุ์โดยใช้ต้นพันธุ์เท่านั้น 

เจริญเติบโตได้ดีในสภาพดินที่มีความชื้นสูงและมีน้ำขัง

เหมาะสำหรับปลูกในที่ที่เคยเป็นแปลงนามาก่อน

หญ้าเซทตาเรีย หญ้าพลิเคทูลั่ม

ปลูกโดยใช้เมล็ดหรือต้นพันธุ์ 

ทนน้ำขัง แต่สัตว์ชอบกินน้อยกว่าพันธุ์อื่น 

คุณค่าทางอาหารต่ำกว่าพันธุ์อื่น ๆ

ข้อมุลจาก https://afdc-aecu1.rtarf.mi.th/ruzy%201.html

####

iLab.work ผู้ให้บริการ ตรวจวิเคราะห์ค่า ดิน น้ำ ปุ๋ย ในรูปแบบออนไลน์ ที่ใช้บริการง่ายที่สุด เพียงแค่นับ 1 2 3 ภายใต้มาตฐาน ISO/IEC 17025

1. เลือกชุดตรวจแนะนำ หรือเลือกเองตามต้องการที่ www.ilab.work ระบบจะคำนวณค่าใช้จ่าย ในการตรวจวิเคราะห์ให้ท่านทราบขณะเลือกทันที

2. ส่งตัวอย่าง ดิน น้ำ หรือ ปุ๋ย ที่ต้องการตรวจวิเคราะห์ไปที่ iLab [ห้องปฏิบัติการ อัยย์แลป (iLab) เลขที่ 94/1 ม.8 ต.ตระคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี 71120] ทาง ไปรษณีย์ หรือ เคอรี่ หรือ แฟรช ตามที่ลูกค้าสะดวก และ ชำระเงินค่าตรวจ

3. รออ่านผลตรวจวิเคราะห์ออนไลน์หน้าเว็บไซต์ (ผลตรวจออกใน 3-15 วัน) 

สอบถามเพิ่มเติม

โทร 090 592 8614

ไลน์ไอดี @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ






 


 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แต่ละภาค...ปลูกอะไรดี?

9 อาการต้นไม้ปลูกในบ้านที่ต้องระวัง

12 อาการต้นไม้ขาดธาตุอาหาร พร้อมวิธีดูแลต้นไม้ให้ฟื้นคืนชีพ